"The Matrix is everywhere. It is all around us. Even now, in this very room. You can see it when you look out your window or when you turn on your television. You can feel it when you go to work... when you go to church... when you pay your taxes. It is the world that has been pulled over your eyes to blind you from the truth. That you are a slave, Neo. Like everyone else you were born into bondage. Into a prison that you cannot taste or see or touch. A prison for your mind"

"เมทริกซ์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง มันอยู่รอบๆตัวเรา รวมถึงตอนนี้ มันอยู่ในห้องๆนี้ คุณมองเห็นมันเมื่อคุณมองออกไปทางหน้าต่าง มองเห็นมันเมื่อคุณเปิดโทรทัศน์ คุณรู้สึกได้ตอนคุณไปทำงาน...ตอนคุณไปที่โบสถ์...ตอนคุณจ่ายภาษี มันคือโลกที่ฉุดรั้งคุณไว้ให้มืดบอดจากความเป็นจริง ที่ที่เราเป็นทาส เหมือนกับทุกๆคนที่เกิดมาถูกจองจำ ถูกขังไว้ในคุกที่ไม่สามารถลิ้มรส มองเห็น หรือสัมผัส เป็นคุกแห่งจิตใจ"...มอร์เฟียส กล่าวต่อ นีโอ




ยินดึต้อนรับสู่
"ปรัชญา เดอะเมทริกซ์"

มหากาพย์ภาพยนตร์ชุด เดอะ เมทริกซ์ นับเป็นภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิงอันหลากหลาย แถมยังจัดเป็นหนังอาร์ตอันสุดจะ Abstract สลับซับซ้อน ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆในเรื่องดูเหมือนจะซ่อนโค้ดปริศนาให้ผู้ชมขบคิดกันได้แทบทุกฉาก ... จึงไม่แปลกที่หลายคนอาจบ่นดูไม่รู้เรื่อง แต่ส่วนใหญ่ก็ชอบกัน เพราะฉากมันก็มันส์ดี ที่ดูรู้เรื่องก็ตีความกันไปในมุมมองต่างๆนานา... "มหากาพย์ชั้นยอด มักทิ้งปมปริศนาให้คนดูได้ตีความต่อยอดความคิดเองได้หลายมุมมองเสมอ" มันสนุกตรงนี้แหละ



ปล. หากแฟนเดอะเมทริกซ์ มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม ก็ขอเชิญแชร์เล่าสู่กันฟัง-ติดต่อสนทนากันได้ที่ แฟนเพจสมทบ

เว็บมาสเตอร์ : scifiction3001@gmail.com | แฟนเพจร่วมสมทบ "สิ่งทรงภูมิ"



- บทความ เกร็ดปรัชญาเมทริกซ์ ล่าสุด -

"สถาปนิก กับ เมทริกซ์ 1.0-4.0 "

The Architect หรือ สถาปนิก คือ A.I.โปรแกรมพิเศษของโลกเครื่องจักร เขาเป็นผู้สร้าง-และปรับปรุงอัพเดท ระบบ Matrix ทั้งระบบ

ประวัติศาสตร์ต้นแบบ ระบบเมทริกซ์ (ภาคเสริมจาก เมทริกซ์โดยสังเขป )

สถาปนิกสร้าง ระบบเมทริกซ์ก็เพื่อใช้เป็นที่จองจำ-หลอกจิตใจของมนุษย์ที่หลับใหลให้อยู่ในโลกเสมือนจริงหรือในโลกแห่งฝัน ก็ด้วยเหตุที่เมื่อครั้งอดีตมนุษย์เคยข่มเหงขับไสไล่ส่งพวกเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ A.I.จนเกิดเป็นสงคราม มนุษย์ VS เครื่องจักร สุดท้ายผลคือฝ่ายเครื่องจักรชนะ และลงโทษมนุษย์ด้วยการเอาร่างกายมาใช้เป็นพลังงานอย่างถาวร (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อ กำเนิดบาป)

--Matrix 1.0 : The Paradise Matrix : เริ่มแรกสถาปนิกออกแบบระบบเมทริกซ์ให้เป็นดั่งสรวงสวรรค์ (Paradise) ทุกอย่างสมบูรณ์แบบมีแต่ความสุขสบาย แต่ปรากฎว่าจิตใจมนุษย์กลับปฏิเสธด้วยเหตุว่า มันดีสมบูรณ์แบบเกินไป! จึงไม่สามารถหลอกจิตใจมนุษย์ให้เชื่อได้อย่างสนิทใจว่ามันคือความจริง เพราะตามความเคยชินของภาวะจิตใจดั่งเดิมของมนุษย์แล้ว สภาวะเยี่ยงสรวงสวรรค์อย่างไร้ที่ตินั้น(Utopia) มันดีเกิดกว่าที่จะเป็นจริงได้ Matrix 1.0 จึงล่มสลายๆ ก็ด้วยมิอาจให้มนุษย์หลับยาวในโลกแห่งฝันได้ สถาปนิกจึงต้องเริ่มรีเซตระบบใหม่

บทสนทนา "Smith" เผยถึง Matrix 1.0 กับ "Morpheus" (ใน Matrix ภาคแรก)
"Did you know that the frist Matrix...was designed to be a perfect hauman world where none suffered...where everyone would be happy. It was a disaster. No one would accept the program. Entire crops were lost."

"แกรู้หรือเปล่า เมทริกซ์แรกสุด ถูกออกแบบให้เป็นโลกที่สมบูรณ์แบบ เป้นที่ที่ปราศจากความทุกข์ เป็นที่ที่ทุกคนมีแต่ความสุข แต่มันไม่ได้ผล พังพินาศไปในที่สุด ก็เพราะไม่มีใครยอมรับระบบนี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดจึงกาลสูญสิ้นไป "

- นีโอ พบ สถาปนิก -


--Matrix 2.0 : The Nightmare Matrix : สถาปนิกได้สร้างโปรแกรมใหม่ คราวนี้เขาไม่สร้างโลกความสมบูรณ์แบบโดยส่วนเดียวอีกต่อไป แต่ได้ศึกษาฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์มนุษย์ สถาปนิกจึงได้พบข้อมูล-ข้อเท็จจริงใหม่ของธรรมชาติมนุษย์บางอย่าง...ดังที่ได้คุย(ด้วยคำพูดเข้าใจยาก:) กับนีโอ
"to more accurately reflect the varying grotesqueries of your nature" / "ผลสะท้อนที่เที่ยงตรงกว่าในความแปรผันเชิงวิปริตของธรรมชาติมนุษย์" สถาปนิกจึงใส่ระบบ "เหตุและผลดั้งเดิม" ลงไปสูโลกเสมือนเมทริกซ์ ซึ่งมีโปรแกรม The Merovingian เป็นตัวแปรสำคัญ

The Merovingian ถูกออกแบบให้เป็นผู้พิทักษ์ระบบเหตุและผลให้เป็นหลักการสากล มีเหตุ>กระทำ>ตอบสนอง>และผลลัพธ์ ...แต่ Merovingian ปฏิเสธไอเดียสิ่งที่เรียกว่า "ทางเลือก" (ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่จะถูกใส่ไปในโลกเมทริกซ์ 3.0) ด้วยเหตุที่ Merovingian เป็นโปรแกรมเก่าใน Matrix 2.0 นั้นเอง เขาจึงปฏิเสธสิ่งที่เรียกว่าทางเลือก... และเขาได้เผยความลับของสิ่งที่เรียกว่า "ทางเลือก" โดยกล่าวว่า "Choice is an illusion created between those with power and those with out" / "ทางเลือกคือสิ่งลวงตา สร้างขึ้นระหว่างผู้มีอำนาจ กับผู้ไร้อำนาจ" แต่กระนั้น ถึง Merovingian จะเป็นโปรแกรมตัวแปรของความเป็นเหตุและผล ใน 2.0 แต่เขาก็เผยว่าธรรมชาติมนุษย์ยังขึ้นกับเหตุที่สำคัญมากอีกอย่างคือ สัญชาติญาณ/อารมณ์ความรู้สึก นั่นเองซึ่งที่แท้ก็เป็นเพียงโปรแกรมที่ใส่เข้าไปก็ให้เกิดผลต่างๆตามมา

และในยุค 2.0 นี้เองที่มีการสร้างสิ่งเป็นภาวะเลวร้ายต่างๆเกิดขึ้น เพื่อไม่ก่อให้เกิดความสุขสงบจนเกินไปแบบที่เคยเป็นในยุค 1.0 จึงเป็นยุคแห่งสงคราม โรคระบาด และที่น่าสนใจคือยังมีโปรแกรมผิดเพี้ยนเสมือนเนื้องอกส่วนเกิน ปรากฏออกมาในภายหลัง ที่เรียกว่า "Monster" ดังที่ในหนังเราจะเห็นนัยยะอ้างถึงในหนัง พวก Vampires ,Werewolf, Alien, Ghost (ผีแฝดขาวในเรื่อง)... ซึ่งก็ตรงตามคำบอกเล่าของเทพยากรณ์..."Every time you heard someone say they saw a ghost or angel, every story you've ever heard about vampires, werewolves or aliens is the system assimilating some program that's doing something they're not supposed to be doing. / "ทุกครั้งที่คุณเคยได้ยินใครบอกว่าเขาเห็น ปีศาจ หรือ เทพ ทุกเรื่องราวที่คุณได้ยินเรื่อง แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า มนุษย์ต่างดาว คือระบบที่เลียนแบบโปรแกรมที่ทำอะไรอย่างที่ไม่สมควรจะทำนั่นแหละ" แต่ในหนังเผยน่าสนคือ Monster ต่างๆเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยตรงเพราะสถาปนิกสร้างโดยตรง(ดังเกริ่นว่าเป็นส่วนเกิน) แต่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดที่ โปรแกรมได้ทำการแฮก! โปรแกรมกันเองอีกที จุดประสงค์ก็เพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองในการหลบซ่อนตัว หรือหลบซ่อนตัว (*หมายถึงโปรแกรมเก่าที่ไม่พึงประสงค์ ลี้ภัยตัวเองแทนการถูกลบทิ้งเพราะรู้ตัวว่าจะมีโปรแกรมใหม่มาแทนที่ตน ซึ่งโปรแกรมประเภทนี้ไม่สามารถกำจัดได้ง่ายๆเลย ตรงนี้ก็หมายถึง The Merovingian และ สมุน ทั้งยังน่าจะหมายรวมหมายถึงตัว The Keymaker ด้วย ?... ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้ยังคงสิงอยู่ใน Matrix 3.0 ยุคต่อไป(ทั้งๆที่สมควรถูกลบทิ้งไปนานแล้ว)

สรุปว่า Matrix 2.0 สถาปนิกก็ล้มเหลวอีกครั้ง เพราะเป็นสภาวะเลวร้ายเกินไป(Dystopia) จิตมนุษย์ก็มิอาจทนทานรับได้ รวมทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาข้างเคียงกับระบบที่สร้างใหม่ 3.0 ต่อไปอีกต่างหากนั้นคือ เกิด Monster ดังกล่าวมาแล้ว

บทสนทนา "Smith" เผยถึง Matrix 2.0 กับ "Morpheus" ขณะถูกจบทรมาน, (ใน Matrix ภาคแรก)
" Some believe that...we lacked the programming language to describe your perfect world. But I believe that...as a spicies...(โดยเผ่าพันธุ์)
...human being define their reality through misery...and suffering So the prefect world was a dream...that your primitive cerebrum kept trying to wake up from. Which is why the Matrix was redesigned to this. The peak of your civilization. I say, your civilization, because when I started thinking for you, It became our civilization, which is, of course, what this is all about. Evolution. Like the Dinosaur."

บางคนเชื่อว่า โปรแกรมเราขาดถ้อยคำอันล้ำเลิศของคุณ แต่ผมเชื่อว่าโดยเผ่าพันธุ์แล้ว มนุษย์นิยมความเป็นจริงผ่านทางความทุกข์และความทรมาน " โลกอันล้ำเลิศ(หมายถึง Matrix 1.0) จึงเป็นเพียงความฝัน ที่สมองดั้งเดิมของคุณพยายามที่จะตื่นจากมัน มันถึงเป็นเหตุทำให้เมทริกซ์ต้องถูกออกแบบใหม่เพื่อการนี้(ความทุกข์-ความทรมาน) สุดยอดแห่งอารยธรรมของคุณ ผมเรียกว่า อารยธรรมของคุณ เพราะทั้งทีที่เราเริ่มคิดให้คุณมันก็กลายเป็นอารยธรรมของเราด้วย ซึ่งก็คือแก่นของเรื่องทั้งหมดนี้ วิวัฒนาการ อย่างเช่นไดโนเสาร์ "

- ฉากสนทนากับ Merovingian -


--Matrix 3.0 : The Modern Matrix : เป็นเช่นไรนั้น รายละเอียด+บรรยากาศ ทั้งหมดก็คือ Matrix ที่อยู่อยู่ในภาพยนตร์ทั้ง 3 ภาคแล้วนั่นเอง :) (คลิกดู รายละเอียดสำหรับMatrix 3.0 สังเขป ที่ เมทริกซ์โดยสังเขป (อยู่ตอนล่างๆ)

* และในหนัง 3.0 ก็จบลง ด้วยการรีเซ็ตระบบใหม่เกิดเป็นยุค Matrix 4.0 ในตอนจบของภาค 3 ซึ่งเราได้เห็นแค่บรรยากศแค่ฉากสั้นๆ ไม่ได้เผยในรายละเอียดว่ามันเป็นอย่างไร... ส่วนจะยาวนานแค่ไหนก็ดังบทสนทนา...

สถาปนิก: "คิดว่าสันติภาพมันจะยั้งยืนสักเท่าไหร่ ?"

เทพพยากรณ์: "ก็เท่าที่มันจะทำได้"

- ฉากบรรยากาศโลก Matrix 4.0 ดูสดใสสวยงามดีทีเดียว -


...............................................................................


สู่ Matrix 4.0 The Matrix Resurrections
(2021)

เมื่อระบบ Matrix ล้ำเหนือไปอีกระดับ คืนชีพมุนษย์ที่ตายไปแล้วได้ มันคือการ รีไซเคิลทาส! ดีๆนี่เอง จัดว่าโหดไปอีกระดับ แม้ Neo-Trinity ที่ชื่อว่าผู้ปลดปล่อย ก็ลงเอยตกอยู่ในฐานะนี้

และในท้องเรื่อง เราจะเห็น ระบบ Matrix 4.0 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนี้ มีการลวงจิตมนุษย์ด้วยการเน้นผลิตคอนเทนต์เชิงสื่อโชเชียล-สื่อบันเทิงไร้สาระต่างๆ (อาทิ ตอนท้าย Credit สื่อว่า มีแผนจะ สร้างคลิปซีรีส์ใหม่ที่ชื่อ Catrix ออกมา) เป้าหมายหลักก็คือ การปั่นกระแส เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจมนุษย์ ควบคุมให้ใช้เวลาในชีวิตหมดเปลืองไปกับการเสพคอนเทนต์บันเทิงเหล่านั้น ในแง่ไม่เปิดช่องให้ฉุกใคร่ครวญตระหนักรู้ต่อภาวะแห่งความเป็นทาสที่แท้จริงของตน (ชีวิตจริงๆก็คงคล้ายๆในหนัง) ... ส่วนฝั่งผู้ปลดปล่อย Neo-Trinity แม้แปลกแยกมีพลังมากก็จริง และท้ายที่สุดเหมือนจะชนะ แต่จริงๆระบบยังไม่ถูกล้มใดๆ และทั้งอาจเป็นแค่เพียงกลไกการสับขาหลอกเชิง เกมซ้อนเกม ของระบบ ให้รู้สึกดีขึ้นบ้างแค่นั้น

*สังเกต ในหนังภาคนี้ ไม่มีการพูดถึงตัวบอส A.I. ในโลกจริง ที่เรียกว่า Deus Ex Machina เลย ซึ่งจริงๆสำคัญมาก เป็นประหนึ่ง พระเจ้าของเหล่าเครื่องจักร A.I. และระบบในโลก Matrix ทั้งหมด จึงคาดว่าเขายังคงดำรงอยู่ บงการเบื้องหลังลับๆต่อไป

*Concept Art The Matrix Resurrections (2021)

สรุปได้ว่า หลักๆโลกจริงยังถูกครองและคุมโดยพวกเครื่องจักร A.I. และโลกลวงระบบ Matrix ยังคงดำเนินต่อไป (ทาสมนุษย์ตัวเป็นๆส่วนใหญ่ ยังคงหลับไหลถูกสูบพลังงานตามปกติ แถมตายไปแล้วยังอาจถูกนำมารีไซเคิลร่างกลับมาใช้ต่อได้อีก) ส่วนฝั่งมนุษย์ที่ตื่นรู้และหลบหนีออกจากระบบไปได้นั้น ซึ่งเหมือนจะเป็นอิสระและมีการพัฒนาก้าวหน้าหลายๆอย่างขึ้นก็จริง แต่ก็ยังเพียงแค่เป็นคนกลุ่มเล็กๆ และยังคงต้องหลบๆซ่อนๆในที่ลับต่อไป

-- ส่งท้าย --

"We don't need you! We need nothing!" ―Deus Ex Machina พูดต่อ Neo

- The Architect ในโลก Matrix ดูจะเป็นผู้นำสูงสุดของ ระบบ Matrix แต่อาจไม่ใช่ซะทีเดียว... ในโลกจริง เราจะเห็นมีอีกตัวละคร ที่เรียกว่า Deus Ex Machina ซึ่งคงเป็นประหนึ่ง พระเจ้าของ A.I. อันเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นศูนย์กลางผู้ควบคุม ทั้งโลกจริง และโลกใน Matrix ทั้งหมดทั้งปวง อย่างแท้จริง -

“ ‘ทางเลือก’ เป็นแค่ ภาพลวงตา ที่ถูกสร้างขึ้น ระหว่าง ผู้ปกครองผู้มีอำนาจ และผู้ถูกปกครองผู้ไร้อำนาจ ” ― Merovingian

ถ้า ผู้ถูกปกครอง ไม่ริเริ่มที่จะร่วมกันสู้ในการสร้าง ทางเลือก ที่แท้จริงของตัวเองขึ้นมา ก็จำต้องตกอยู่ในวังวนเกมแห่งอำนาจของ ผู้ปกครอง อยู่ร่ำไป อย่างเลี่ยงไม่ได้ ... แต่ ประวัติศาสตร์อดีต ที่ผ่านๆมา ยันประวัติศาสตร์อนาคต ก็ตาม ก็สะท้อนว่า #ที่ใดมีการกดขี่ที่นั้นย่อมมีการต่อสู้ เสมอๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่นกัน ... ไม่ว่าผู้ปกครองผู้กดขี่นัั้น จะเป็น มนุษย์ หรือ อมนุษย์ ก็ตาม [ อย่างเครื่องจักรพระเจ้า AI, Deus Ex Machina ในที่นี้ ]

และถ้าสังเกต เมื่อมีการลงมือร่วมกันสู้ มันจะส่งผลในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆเสมอ แม้ต้องใช้เวลา และระหว่างทางจะมีสะดุดบ้างก็ตาม